ศูนย์ชีวารักษ์

คําแนะนําผู้ป่วยที่ฉายรังสี

บริเวณช่องอก ปอด หลอดอาหาร

ภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้นได้ระหว่างและหลังฉายรังสี
  1. ผิวหนังบริเวณที่ฉายรังสีหน้าอกรักแร้อาจมีสีคล้ำขึ้นแห่งเป็นขุยและรู้สึกคันได้เนื่องจากปฏิกิริยาของรังสีที่มีต่อผิวหนัง
  2. ไขสันหลังระดับต้นคอเสื่อม มีโอกาสเป็นอัมพาต
  3. กระดูกซี่โครงหัก
  4. มีผังผืดที่ปอด บางครั้งอาจมีปอดอักเสบ
  5. ไอ เจ็บคอ กลืนอาหารเหมือนมีอะไรติดคอ
  6. คลื่นไส้อาเจียน
การดูแลผิวหนังระหว่างฉายรังสี
  1. ห้ามลบเส้นบริเวณที่ฉายรังสี
  2. หลีกเลี่ยงการขัดถูหรือเสียดสีในบริเวณที่ฉายรังสีเ่นห้ามแกะเกาผิวหนังบริเวณที่ฉายรังสีตัดเล็บให้สั้นอยู่เสมอเพื่อป้องกันการเกาจนเกิดบาดแผล
  3. อาบน้ําได้ทุกวันโดยใช้สบู่อ่อนๆใช้ครีมและผลิตภัณฑ์ที่ไม่มีแอลกอฮอล์หรือสารท่ีทําให้ระคายเคือง
  4. ดูแลบริเวณฉายรังสีให้แห้ง ไม่อับชื้น
  5. สวมใส่เสื้อ้าที่หลวมไม่รัดแน่นมีเนื้อผ้าอ่อนนุ่มระบายอากาศได้ดีและห้ามใส่เสื้อชั้นในที่รัดแน่นและมีโครงเหล็ก
  6. หลีกเลี่ยงการวางกระเป๋าน้ำร้อน หรือน้ำแข็งบริเวณที่ฉายรังสี
  7. งดว่ายน้ําหรือแช่น้ําบริเวณที่ฉายรังสี
  8. หากบริเวณที่ฉายรังสีมีอาการผิดปกติเช่นปวดบวมแดงร้อนหรือเป็นแผลให้แจ้งแพทย์หรือพยาบาลทราบทันที
CHG Cancer Center, การรักษามะเร็ง, การแพทย์, ความเป็นเลิศ, คําแนะนํา, คีโม, จุฬารัตน์, จุฬารัตน์ 3, ฉายรังสี, ชีวารักษ์, บริเวณช่องอก, ปอด, ผู้ป่วย, มะเร็ง, มะเร็งรักษาได้, มะเร็งรู้เร็วรักษาได้, มะเร็งเจอเร็วรักษาหายขาด, รพ, รักษา, รักษาโรคมะเร็ง, รู้เร็วตรงจุดรักษาได้ทันที, รู้เร็วรักษาได้, ศูนย์ความเป็นเลิศ, ศูนย์ความเป็นเลิศทางการแพทย์, ศูนย์ชีวารักษ์, ศูนย์มะเร็งชีวารักษ์, ศูนย์มะเร็งชีวารักษ์ CHG Cancer Center, หลอดอาหาร, เคมีบำบัด, โรคมะเร็ง, โรงพยาบาล, โรงพยาบาล จุฬารัตน์3
การดูแลบาดแผล
  1. ใช้สําลีชุบน้ําเกลือล้างแผล เช็ดในแผลและรอบๆ แผลให้สะอาด ไม่ควรใช้ยาใดๆ นอกจากยาที่แพทย์ผู้รักษาสั่งให้
  2. ปัดด้วยผ้าก๊อสที่สะอาดให้คลุมผิวหนังบริเวณที่ฉายแสง ระวyงอย่า ใช้พลาสเตอรต์ ติดกับผิวหนังบริเวณที่ฉายแสง เนื่องจากเวลาลอกออกอาจทําให้เกิดบาดแผลได้ง่าย
  3. ไม่แกะ / ลอกสะเก็ดบริเวณแผล
  4. ถ้าแผลที่มีขนาดใหญ่มีเลือดออก หรือผิวหนังเป็นแผลแฉะมากอย่าทําแผลเอง
การดูแลตนเองเมื่อใส่สายยางหรือท่อให้อาหาร

ผู้ป่วยมักมีน้ำหนักลดถ้าท่านไม่สามารถรับประทานอาหารทางปากได้หรือรับประทานได้น้อยแพทย์อาจแนะนําการให้อาหารทางสายยางหรือท่อให้อาหารถ้าท่านใส่สายยางหรือท่อให้อาหารยังสามารถรับประทานอาหารทางปากร่วมไปด้วยได้ตามความสามารถของท่านเพราะจะทําให้ได้อาหารมากขึ้นได้รู้รสชาติและช่วยให้คุณภาพชีวิตดีขึ้น

  1. ข้อควรระวังไม่ให้สายยาง หรือท่อให้อาหารหลุดแต่ถ้าท่านไม่สามารถรับประทานอาหารทางปากได้ให้รีบกลับมาพบแพทย์ หรือโรงพยาบาลใกล้บ้าน
  2. สังเกตว่าผิวหนังมีลักษณะการอักเสบติดเชื้อหรือไม่คือผิวหนังแดงเจ็บมีตุ่มหนองหรือน้ําไหลต้องแจ้งแพทย์หรือพยาบาล
CHG Cancer Center, การรักษามะเร็ง, การแพทย์, ความเป็นเลิศ, คําแนะนํา, คีโม, จุฬารัตน์, จุฬารัตน์ 3, ฉายรังสี, ชีวารักษ์, บริเวณช่องอก, ปอด, ผู้ป่วย, มะเร็ง, มะเร็งรักษาได้, มะเร็งรู้เร็วรักษาได้, มะเร็งเจอเร็วรักษาหายขาด, รพ, รักษา, รักษาโรคมะเร็ง, รู้เร็วตรงจุดรักษาได้ทันที, รู้เร็วรักษาได้, ศูนย์ความเป็นเลิศ, ศูนย์ความเป็นเลิศทางการแพทย์, ศูนย์ชีวารักษ์, ศูนย์มะเร็งชีวารักษ์, ศูนย์มะเร็งชีวารักษ์ CHG Cancer Center, หลอดอาหาร, เคมีบำบัด, โรคมะเร็ง, โรงพยาบาล, โรงพยาบาล จุฬารัตน์3
อาหารและวิธีการให้อาหารผ่านสายยาง
  1. อาหารต้องเป็นอาหารเหลว หรืออาหารปั่น
  2. ต้องเป็นอาหารที่สะอาด
  3. ปริมาณอาหารแต่ละครั้งต้องไม่มากเกินไป อาหารจะล้น ออกมาทางสายยาง ทําให้แน่นท้อง อึดอัด สําลักได้
  4. ขณะให้อาหารผู้ป่วยควรอยู่ในท่านั่งถ้านั่งไม่ได้ควรนอนเอนตัวศีรษะสูงห้ามนอนราบเพื่อช่วยอาหารไหลลงกระเพาะได้สะดวกขึ้นและป้องกันการสําลักลงปอด
  5. ควรให้อาหารช้าๆ ทีละน้อยจนกว่าจะหมด ประมาณ 15-30 นาที
  6. ระหว่างให้อาหารถ้ามีการติดตันอย่าพยายามดันเพราะอาจทําให้สายยางแตกเป็นอันตรายได้ควรแจ้งแพทย์หรือพยาบาล
  7. หลังให้อาหารเสร็จแล้วทุกครั้งควรใส่น้ําสะอาดตามลงไป เล็กน้อยเพื่อทําความสะอาดสายยาง ไม่ให้เศษอาหารติดค้าง
  8. หลังให้อาหารเสร็จควรปัดสายยางให้สนิทป้องกันอาหารหรือน้ําย้อยไหลย้อนกลับ
  9. หลังให้อาหารควรนั่งพักหรือลุกเดินช้าๆไม่ควรนอนทันที เพราะอาจทําให้อาหารไหลย้อนกลับได้และช่วยลดอาการ อืดแน่นท้อง
  10. ถ้าให้อาหารแล้วมีอาการไอหรือสําลักเสมอ ต้องแจ้งแพทย์ หรือพยาบาล
  11. ถ้าอยู่าระหว่างมื้อผู้ป่วยหิวสามารถให้อาหารเสริมเพิ่มเติมได้
การตรวจร่างกายประจําสัปดาห์
  1. ท่านจะได้รับการตรวจร่างกายสัปดาห์ละ 1 ครั้ง
  2. ท่านจะได้รับการตรวจเลือดเพื่อดูความพร้อมของร่างกายสัปดาห์ละ 1 ครั้ง

สอบถามและปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เบอร์ติดต่อ 0638166058

สอบถามข้อมูลการรักษา

เพิ่มเพื่อน

แชร์บทความ
thTH
X