การฉายรังสีรักษามะเร็งท่อน้ำดี
การฉายรังสีเป็นหนึ่งในวิธีการหลักที่ใช้ในการรักษามะเร็งท่อน้ำดี โดยใช้รังสีพลังงานสูงเพื่อทำลายเซลล์มะเร็งหรือยับยั้งการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็ง การฉายรังสีสามารถใช้ได้ในหลายรูปแบบ ขึ้นอยู่กับสภาพของผู้ป่วยและลักษณะของมะเร็ง
ประเภทของการฉายรังสี
- การฉายรังสีภายนอก (External Beam Radiation Therapy – EBRT): การฉายรังสีภายนอกเป็นวิธีที่พบได้บ่อยที่สุดในการรักษามะเร็งท่อน้ำดี โดยใช้เครื่องมือที่ส่งรังสีไปยังตำแหน่งของเนื้องอกจากภายนอกร่างกาย การฉายรังสีภายนอกมักจะให้ในช่วงเวลาหลายสัปดาห์ โดยให้ผู้ป่วยมารับการฉายรังสีในแต่ละวัน
- การฉายรังสีจากภายใน (Internal Radiation Therapy หรือ Brachytherapy): การฉายรังสีจากภายในเป็นวิธีที่ใช้การสอดใส่แหล่งรังสีเข้าไปในร่างกายใกล้กับตำแหน่งของเนื้องอก วิธีนี้สามารถให้ปริมาณรังสีสูงไปยังเนื้องอกโดยตรงโดยไม่ทำลายเนื้อเยื่อปกติมากเกินไป
วัตถุประสงค์ของการฉายรังสี
- ก่อนการผ่าตัด: การฉายรังสีก่อนการผ่าตัด (neoadjuvant radiation) ใช้เพื่อลดขนาดของเนื้องอก ทำให้การผ่าตัดเอาเนื้องอกออกได้ง่ายขึ้นและมีประสิทธิภาพมากขึ้น
- หลังการผ่าตัด: การฉายรังสีหลังการผ่าตัด (adjuvant radiation) ใช้เพื่อทำลายเซลล์มะเร็งที่เหลืออยู่หลังจากการผ่าตัด ซึ่งอาจไม่สามารถมองเห็นหรือเอาออกได้ทั้งหมด
- การฉายรังสีแบบบรรเทาอาการ (Palliative Radiation): ในกรณีที่มะเร็งท่อน้ำดีอยู่ในระยะที่ไม่สามารถรักษาให้หายได้ การฉายรังสีแบบบรรเทาอาการใช้เพื่อบรรเทาอาการเจ็บปวดหรืออาการอื่น ๆ ที่เกิดจากการแพร่กระจายของมะเร็ง
ผลข้างเคียงของการฉายรังสี
การฉายรังสีอาจทำให้เกิดผลข้างเคียงได้ ซึ่งผลข้างเคียงที่พบได้บ่อยได้แก่:
- ความเหนื่อยล้า: ผู้ป่วยอาจรู้สึกเหนื่อยล้าหลังจากได้รับการฉายรังสี
- การระคายเคืองผิวหนัง: ผิวหนังบริเวณที่ได้รับการฉายรังสีอาจเกิดการระคายเคือง แดง หรือลอก
- ปัญหาทางเดินอาหาร: การฉายรังสีบริเวณช่องท้องอาจทำให้เกิดอาการคลื่นไส้ อาเจียน หรือท้องเสีย
- ผลข้างเคียงระยะยาว: ในบางกรณี การฉายรังสีอาจทำให้เกิดผลข้างเคียงระยะยาว เช่น การเกิดพังผืดหรือแผลเป็นในเนื้อเยื่อบริเวณที่ได้รับการฉายรังสี

การเตรียมตัวก่อนการฉายรังสี
ก่อนการฉายรังสี ผู้ป่วยจะต้องเข้ารับการตรวจวินิจฉัยและวางแผนการรักษา โดยแพทย์จะทำการสแกนภาพเพื่อกำหนดตำแหน่งและขนาดของเนื้องอกอย่างแม่นยำ จากนั้นจะวางแผนการฉายรังสีที่เหมาะสมที่สุดสำหรับผู้ป่วยแต่ละราย
การดูแลหลังการฉายรังสี
หลังจากการฉายรังสี ผู้ป่วยควรปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์ในการดูแลตนเอง รวมถึงการพักผ่อนให้เพียงพอ การรักษาสุขภาพผิวบริเวณที่ได้รับการฉายรังสี และการรับประทานอาหารที่เหมาะสม นอกจากนี้ ควรติดตามอาการและรายงานผลข้างเคียงใด ๆ ให้แพทย์ทราบเพื่อการดูแลและรักษาเพิ่มเติม
การฉายรังสีเป็นวิธีการที่สำคัญในการรักษามะเร็งท่อน้ำดี โดยสามารถใช้ร่วมกับวิธีการรักษาอื่น ๆ เพื่อเพิ่มโอกาสในการหายจากโรคและลดอาการที่ไม่พึงประสงค์ สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการฉายรังสีในการรักษามะเร็งท่อน้ำดี
สอบถามและปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เบอร์ติดต่อ 0638166058