มะเร็งเต้านม ผู้ชายก็เสี่ยง รู้ทันอาการ
มะเร็งเต้านมในผู้ชาย คืออะไร?
มะเร็งเต้านมในผู้ชาย (Male Breast Cancer) เป็นโรคที่เกิดจากการเจริญเติบโตผิดปกติของเซลล์เนื้อเยื่อเต้านม แม้จะพบได้เพียงประมาณ 1% ของผู้ป่วยมะเร็งเต้านมทั้งหมด แต่ความรุนแรงและขั้นตอนการรักษาใกล้เคียงกับในผู้หญิง ความแตกต่าง คือ ผู้ชายมักมีเนื้อนมน้อย ทำให้ก้อนมะเร็งอยู่ใกล้ผิวและหัวนมมากกว่า จึงลุกลามได้รวดเร็วหากตรวจพบช้า
สัญญาณเตือนและอาการของมะเร็งเต้านมในผู้ชาย
ควรหมั่นตรวจร่างกายตัวเอง และสังเกตอาการเหล่านี้
- คลำเจอก้อนแข็งที่เต้านมหรือใต้รักแร้
- หัวนมหดรั้ง บิดเบี้ยว หรือมีของเหลวไหลออก (อาจเป็นเลือด)
- ผิวเต้านมบุ๋ม คล้ายผิวส้ม หรือมีผื่นแดงหนา
- ขนาดหรือรูปร่างเต้านมเปลี่ยนไป
- บวม เจ็บ หรือร้อนผิดปกติบริเวณเต้านมหรือรักแร้
หากก้อนไม่หายภายใน 2–4 สัปดาห์ ควรรีบพบแพทย์ทันที
สาเหตุและปัจจัยเสี่ยง
แม้สาเหตุที่แท้จริงยังไม่ชัดเจน แต่มีหลายปัจจัยที่เพิ่มความเสี่ยง ได้แก่
- พันธุกรรมและยีนกลายพันธุ์ เช่น BRCA1, BRCA2
- ประวัติคนในครอบครัวเป็นมะเร็งเต้านม
- อายุที่มากขึ้น (พบมากในวัย 60 ปีขึ้นไป)
- ระดับฮอร์โมนเอสโตรเจนสูงผิดปกติ
- การได้รับรังสีบริเวณหน้าอกในอดีต
- ภาวะโรคตับเรื้อรัง หรือภาวะอ้วน
การวินิจฉัยมะเร็งเต้านมในผู้ชาย
แพทย์จะทำการตรวจและใช้เครื่องมือ เช่น
- การตรวจร่างกายและซักประวัติ
- แมมโมแกรม (Mammogram) และอัลตราซาวนด์
- การเจาะชิ้นเนื้อ (Biopsy) เพื่อยืนยันการวินิจฉัย
การรักษามะเร็งเต้านมในผู้ชาย
การรักษาขึ้นอยู่กับระยะของโรคและสุขภาพของผู้ป่วย อาจประกอบด้วย
- การผ่าตัด เอาเนื้อเยื่อเต้านมหรือหัวนมออก
- การฉายรังสี เพื่อทำลายเซลล์มะเร็งที่เหลือ
- การให้ยาเคมีบำบัด เพื่อลดการแพร่กระจาย
- การให้ยามุ่งเป้า (Targeted Therapy) ในกรณีที่มีตัวรับโปรตีนเฉพาะ
- การให้ฮอร์โมนบำบัด (Hormone Therapy) สำหรับมะเร็งที่มีตัวรับฮอร์โมน
การป้องกันและการตรวจคัดกรอง
- ตรวจร่างกายตัวเองเป็นประจำ
- รักษาน้ำหนักให้เหมาะสม
- ออกกำลังกายสม่ำเสมอ
- หลีกเลี่ยงการดื่มแอลกอฮอล์มากเกินไป
- หากมีประวัติครอบครัว ควรปรึกษาแพทย์เรื่องการตรวจคัดกรองและตรวจยีน
สรุป
มะเร็งเต้านมในผู้ชายแม้จะพบไม่บ่อย แต่สามารถเกิดขึ้นได้และมีความรุนแรง การรู้จักสัญญาณเตือนและตรวจพบตั้งแต่ระยะแรก จะช่วยเพิ่มโอกาสในการรักษาหายและลดความเสี่ยงของการลุกลาม
