เคมีบำบัดขนาดสูง รักษามะเร็งดื้อยา
เคมีบำบัดขนาดสูง (High-dose Chemotherapy) คืออะไร?
High-dose chemotherapy หรือ เคมีบำบัดขนาดสูง คือ การให้ยาต้านมะเร็งในปริมาณที่มากกว่าปกติหลายเท่า โดยมีจุดประสงค์เพื่อ
- กำจัดเซลล์มะเร็งที่ดื้อต่อการรักษาทั่วไป
- ทำลายมะเร็งอย่างลึกถึงระดับโมเลกุล
ใช้ร่วมกับการปลูกถ่ายไขกระดูก/สเต็มเซลล์ (Stem Cell Transplantation) เพื่อช่วยร่างกายฟื้นฟูหลังการทำลายไขกระดูก
ใช้ในผู้ป่วยแบบใด?
การรักษาด้วย High-dose chemo มักใช้ในกรณีต่อไปนี้
- มะเร็งเม็ดเลือดขาว (Leukemia)
- มะเร็งต่อมน้ำเหลือง (Lymphoma)
- มะเร็งไขกระดูก (Multiple Myeloma)
- มะเร็งอัณฑะที่ดื้อต่อเคมีบำบัดทั่วไป
- มะเร็งเด็กบางชนิด เช่น Neuroblastoma ระยะลุกลาม
กลไกการทำงาน
การใช้ยาเคมีบำบัดในขนาดสูง
- ทำลาย DNA ของเซลล์มะเร็งได้มากกว่าปกติ
- เพิ่มโอกาสลดขนาดก้อนมะเร็ง หรือทำให้มะเร็งสงบลงชั่วคราว
ข้อเสีย: มีผลกระทบต่อไขกระดูกอย่างรุนแรง จำเป็นต้องปลูกถ่ายไขกระดูกเพื่อช่วยการฟื้นตัวของร่างกาย
ความเสี่ยงและผลข้างเคียง
การให้เคมีบำบัดขนาดสูงมีผลข้างเคียงรุนแรงกว่าปกติ เช่น
- ภาวะเม็ดเลือดขาวต่ำมาก (เสี่ยงติดเชื้อรุนแรง)
- ภาวะเลือดจาง เกล็ดเลือดต่ำ
- คลื่นไส้ อาเจียน ท้องเสีย
- ผมร่วง ผิวแห้ง ปากเปื่อย
- อวัยวะสำคัญ เช่น ตับ ไต หรือหัวใจ อาจได้รับผลกระทบ
ดังนั้น ต้องอยู่ในการดูแลของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ และในสถานพยาบาลที่พร้อมรับมือภาวะแทรกซ้อน
ข้อดีของ High-dose Chemo
- เพิ่มโอกาสควบคุมหรือทำให้โรคสงบ (remission)
- ใช้ในผู้ป่วยที่ดื้อต่อเคมีบำบัดขนาดมาตรฐาน
- เป็นส่วนหนึ่งของแผนการรักษาที่ซับซ้อน เช่น ร่วมกับสเต็มเซลล์
จำเป็นต้องทำที่โรงพยาบาลเฉพาะทาง
การให้เคมีบำบัดขนาดสูงต้องทำในศูนย์มะเร็งหรือศูนย์ปลูกถ่ายไขกระดูก ที่มีบุคลากรและเครื่องมือครบครัน เพราะผู้ป่วยจะมีภาวะภูมิคุ้มกันต่ำสุด ๆ และต้องเฝ้าระวังใกล้ชิด
สรุป
High-dose chemotherapy คือ การให้ยามะเร็งที่เข้มข้นกว่าปกติ เพื่อหวังผลในการควบคุมโรคที่ลุกลามหรือดื้อต่อการรักษา เป็นวิธีที่ต้องชั่งระหว่างผลลัพธ์กับผลข้างเคียงที่รุนแรง จึงควรได้รับการดูแลโดยแพทย์เฉพาะทางและวางแผนร่วมกับครอบครัวอย่างรอบคอบ
