อากาศร้อน ทำให้มะเร็งแย่ลงจริงหรือ?
อากาศร้อนส่งผลต่อผู้ป่วยมะเร็งจริงหรือ? คำถามนี้เกิดขึ้นบ่อยในช่วงฤดูร้อน โดยเฉพาะในประเทศไทยที่มีอุณหภูมิสูงเกิน 35 องศาเซลเซียสแทบตลอดทั้งวัน หลายคนสงสัยว่า อากาศที่ร้อนจัดจะทำให้โรคมะเร็งรุนแรงขึ้นหรือไม่ บทความนี้จะพาคุณมาทำความเข้าใจว่า อากาศร้อนมีผลต่อผู้ป่วยมะเร็งอย่างไร และควรดูแลตัวเองอย่างไรในช่วงที่อุณหภูมิสูง
อากาศร้อนทำให้มะเร็งลุกลามหรือไม่?
ในปัจจุบันยังไม่มีหลักฐานทางการแพทย์ที่ยืนยันว่าอากาศร้อนเพียงอย่างเดียวจะทำให้เซลล์มะเร็งเติบโตหรือกระจายได้รวดเร็วขึ้นโดยตรง แต่ความร้อนสูงสามารถส่งผลทางอ้อมต่อผู้ป่วยมะเร็งได้หลายด้าน ซึ่งอาจทำให้ร่างกายอ่อนแอและมีความเสี่ยงต่อภาวะแทรกซ้อน
ผลกระทบของอากาศร้อนต่อผู้ป่วยมะเร็ง
1. เสี่ยงภาวะขาดน้ำและฮีทสโตรก
ในช่วงที่อากาศร้อนจัด ร่างกายจะสูญเสียน้ำมากขึ้น ผู้ป่วยมะเร็งที่กำลังรักษาด้วยเคมีบำบัดหรือรังสีบำบัดมักมีภูมิคุ้มกันต่ำ อุณหภูมิที่สูงเกินไปอาจทำให้เกิดภาวะฮีทสโตรก (Heatstroke) ซึ่งเป็นอันตรายและต้องรีบรับการรักษา
2. กระตุ้นการอักเสบในร่างกาย
อุณหภูมิสูงอาจกระตุ้นการทำงานของระบบภูมิคุ้มกันและส่งผลให้เกิดการอักเสบเรื้อรังในร่างกาย ซึ่งเป็นหนึ่งในปัจจัยที่อาจกระตุ้นให้เซลล์มะเร็งบางชนิดเติบโตได้เร็วขึ้น
3. ผลต่อสภาพจิตใจและคุณภาพชีวิต
อากาศร้อนอาจทำให้เกิดอาการอ่อนเพลีย หงุดหงิด นอนไม่หลับ และอยากอาหารน้อยลง ส่งผลให้ร่างกายฟื้นตัวช้าลง และมีผลต่อการตอบสนองต่อการรักษา
4. ผลต่อการเก็บรักษายา
ผู้ป่วยบางรายต้องเก็บยารักษาไว้ที่อุณหภูมิคงที่ หากเก็บไว้ในที่ร้อนจัด อาจทำให้ยาบางชนิดเสื่อมสภาพเร็ว และลดประสิทธิภาพของการรักษา
คำแนะนำการดูแลตัวเองของผู้ป่วยมะเร็งในช่วงอากาศร้อน
- ดื่มน้ำสะอาดให้เพียงพอวันละ 6–8 แก้ว
- หลีกเลี่ยงการอยู่กลางแจ้งนาน ๆ โดยเฉพาะช่วงแดดจัด
- ใส่เสื้อผ้าระบายอากาศ สีอ่อน และหลวมสบาย
- เปิดพัดลมหรือเครื่องปรับอากาศในที่พักอาศัย
- หากรู้สึกเวียนหัว ใจเต้นเร็ว หรืออ่อนแรง ควรรีบพบแพทย์ทันที
อากาศร้อนอาจไม่ทำให้มะเร็งแย่ลงโดยตรง แต่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพโดยรวม
แม้อากาศร้อนจะไม่ใช่สาเหตุโดยตรงของการลุกลามของโรคมะเร็ง แต่สามารถส่งผลทางอ้อมต่อร่างกายผู้ป่วย โดยเฉพาะผู้ที่กำลังอยู่ระหว่างการรักษา ดังนั้น การดูแลตัวเองในช่วงอากาศร้อนจึงเป็นสิ่งสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม
