ศูนย์ชีวารักษ์

อินโฟกราฟิกอธิบายข้อควรรู้เกี่ยวกับยา Sorafenib สำหรับรักษามะเร็งตับ รวมประโยชน์ ผลข้างเคียง และแนวทางใช้อย่างปลอดภัย

ข้อควรรู้ Sorafenib สำหรับรักษามะเร็งตับ

Sorafenib คืออะไร?

Sorafenib เป็นยา Targeted Therapy ชนิดรับประทาน ที่ออกฤทธิ์โดยตรงกับโปรตีนที่จำเป็นต่อการเติบโตและการแพร่กระจายของเซลล์มะเร็ง จัดอยู่ในกลุ่ม Multi-kinase Inhibitors คือ สามารถยับยั้งการทำงานของโปรตีนหลายชนิด เช่น

  • VEGFR (Vascular Endothelial Growth Factor Receptor): ลดการสร้างเส้นเลือดใหม่ในก้อนมะเร็ง
  • PDGFR (Platelet-Derived Growth Factor Receptor)
  • RAF kinases (เกี่ยวข้องกับการควบคุมการเจริญเติบโตของเซลล์)

ทำให้สามารถชะลอการโตของก้อนมะเร็ง และจำกัดการลุกลามไปยังอวัยวะอื่นได้

ข้อบ่งใช้หลัก

ใช้รักษาผู้ป่วยมะเร็งตับชนิด Hepatocellular Carcinoma (HCC) ในกรณีที่

  • ก้อนเนื้อโตมากเกินกว่าที่จะผ่าตัดได้ (Unresectable HCC)
  • มีการแพร่กระจายของมะเร็งไปยังอวัยวะอื่น (Metastatic HCC)

นอกจากนี้ยังได้รับการอนุมัติใช้สำหรับ

  • มะเร็งไตชนิด Renal Cell Carcinoma (RCC) ขั้นสูง
  • มะเร็งต่อมไทรอยด์ ชนิดแอนพลาสติกหรือแยกตัวออกจากการควบคุมฮอร์โมน (Differentiated thyroid carcinoma ที่ไม่ตอบสนองต่อการรักษาด้วยไอโอดีน)

วิธีการใช้ยา

  • ปริมาณมาตรฐาน: 400 มก. วันละ 2 ครั้ง (เช้า-เย็น) รวมเป็น 800 มก./วัน
  • ควรรับประทานขณะท้องว่าง หรือ หลังอาหารเบา ๆ เพื่อเพิ่มการดูดซึม
  • ต้องรับประทานต่อเนื่องจนกว่าจะมีเหตุให้หยุด เช่น อาการข้างเคียงรุนแรง หรือโรคกำเริบ
  • แพทย์อาจปรับลดขนาดยาเหลือ 200 มก. ต่อครั้ง ในกรณีที่มีผลข้างเคียงชัดเจน

ผลข้างเคียงที่ควรระวัง

Sorafenib มีผลข้างเคียงเฉพาะตัว ซึ่งควรเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด เช่น

  • ผิวหนัง : ผื่น, มือเท้าแสบพอง (Hand-Foot Syndrome), แผลที่ผิวหนัง
  • ระบบทางเดินอาหาร : ท้องเสีย, คลื่นไส้, เบื่ออาหาร, น้ำหนักลด
  • ความดันโลหิต : ความดันสูงผิดปกติ ต้องวัดความดันสม่ำเสมอ
  • ระบบหัวใจ : ความเสี่ยงหัวใจล้มเหลวในผู้ป่วยบางราย
  • ทั่วไป : อ่อนเพลีย, ปวดท้อง, ผมร่วงบางส่วน

หมายเหตุพิเศษ:

  • บางรายอาจเกิดภาวะตับอักเสบเฉียบพลัน, เลือดออกผิดปกติ หรือ หัวใจเต้นผิดจังหวะ
  • ต้องรีบพบแพทย์ทันทีหากมีอาการหายใจหอบ เจ็บหน้าอก หรือตัวเหลืองตาเหลือง

จุดแข็งของ Sorafenib

เป็นยามาตรฐานชุดแรกที่พิสูจน์ทางการแพทย์ ว่าสามารถยืดชีวิตผู้ป่วยมะเร็งตับขั้นลุกลามได้จริง

การศึกษาสำคัญ: 

  • ผู้ใช้ Sorafenib มีอายุยืนเฉลี่ยนานกว่ากลุ่มที่ไม่ได้รับยา ประมาณ 2.8 เดือน
  • ลดอัตราการเติบโตของก้อนเนื้อได้ชัดเจน

การใช้ Sorafenib จึงกลายเป็นมาตรฐานทองคำ สำหรับผู้ป่วย HCC ลุกลามหลายปี

ข้อจำกัดที่ควรรู้

  • ไม่ใช่ทุกคนตอบสนองได้ดีเท่ากัน: ผู้ป่วยบางกลุ่มมีการกลายพันธุ์ของยีนหรือสภาพร่างกายที่ทำให้ยาได้ผลน้อย
  • มีผลข้างเคียงที่ต้องบริหารจัดการอย่างใกล้ชิด เช่น ควบคุมความดัน, ดูแลภาวะแผลผิวหนัง
  • มีทางเลือกใหม่แล้ว: ยาที่พัฒนาใหม่ เช่น 
    • Lenvatinib: มีผลลัพธ์ใกล้เคียงหรือดีกว่าในบางกลุ่ม
    • Atezolizumab + Bevacizumab: การรักษาแบบภูมิคุ้มกันบำบัด (Immunotherapy) + ยาต้านหลอดเลือด กำลังเป็นทางเลือกแรกในหลายประเทศ

สรุป

  • Sorafenib เป็นยาที่ปฏิวัติการรักษามะเร็งตับลุกลาม แต่ต้องติดตามอาการและผลข้างเคียงอย่างละเอียด
  • การเลือกใช้ขึ้นกับสภาพผู้ป่วย, ผลการตรวจเพิ่มเติม และ การเข้าถึงยารุ่นใหม่
  • ควรอยู่ในความดูแลอย่างใกล้ชิดของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านมะเร็งตับเสมอ
อินโฟกราฟิกอธิบายข้อควรรู้เกี่ยวกับยา Sorafenib สำหรับรักษามะเร็งตับ รวมประโยชน์ ผลข้างเคียง และแนวทางใช้อย่างปลอดภัย

สอบถามและปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เบอร์ติดต่อ 0638166058

สอบถามข้อมูลการรักษา

เพิ่มเพื่อน

แชร์บทความ

At vero eos et accusamus et iusto odio digni goikussimos ducimus qui to bonfo blanditiis praese. Ntium voluum deleniti atque.

Melbourne, Australia
(Sat - Thursday)
(10am - 05 pm)
thTH