แปลผลตรวจเลือด ค่าไต เกลือแร่ ผู้ป่วยมะเร็ง
ทำไมการตรวจเลือดจึงสำคัญสำหรับผู้ป่วยมะเร็ง?
การตรวจเลือดเป็นส่วนสำคัญของการติดตามสุขภาพผู้ป่วยมะเร็ง ช่วยให้แพทย์สามารถประเมินการทำงานของไต ระดับเกลือแร่ และความสมดุลของร่างกาย โดยค่าที่ผิดปกติอาจบ่งชี้ถึงภาวะแทรกซ้อนจากโรคมะเร็งหรือผลข้างเคียงจากการรักษา เช่น เคมีบำบัดและรังสีรักษา
การตรวจค่าการทำงานของไต (Renal Function Tests)
ไตเป็นอวัยวะสำคัญที่ช่วยกรองของเสียออกจากเลือด หากไตทำงานผิดปกติ อาจส่งผลต่อการรักษามะเร็งได้ ค่าที่ใช้ประเมินการทำงานของไต ได้แก่
- Creatinine (Cr): ค่าปกติ 0.6-1.2 มก./ดล. ระดับสูงอาจหมายถึงไตทำงานลดลง
- Blood Urea Nitrogen (BUN): ค่าปกติ 7-20 มก./ดล. หากค่าสูง อาจบ่งบอกถึงภาวะขาดน้ำหรือไตทำงานผิดปกติ
- Glomerular Filtration Rate (GFR): ใช้คำนวณการทำงานของไตโดยรวม หากต่ำกว่า 60 มล./นาที อาจบ่งบอกถึงโรคไตเรื้อรัง
การตรวจค่าเกลือแร่ในเลือด (Electrolytes)
สมดุลของเกลือแร่มีผลต่อระบบประสาท กล้ามเนื้อ และหัวใจ การเปลี่ยนแปลงของค่าต่อไปนี้อาจเกิดจากผลข้างเคียงของการรักษามะเร็ง
- Sodium (Na): ค่าปกติ 135-145 มิลลิโมล/ลิตร ระดับต่ำอาจเกิดจากภาวะขาดน้ำหรือใช้ยาขับปัสสาวะ
- Potassium (K): ค่าปกติ 3.5-5.0 มิลลิโมล/ลิตร หากสูงเกินไปอาจส่งผลต่อการทำงานของหัวใจ
- Calcium (Ca): ค่าปกติ 8.5-10.2 มก./ดล. ระดับสูงอาจเกี่ยวข้องกับมะเร็งกระดูก หรือภาวะพร่องพาราไทรอยด์
- Magnesium (Mg): ค่าปกติ 1.7-2.2 มก./ดล. หากต่ำอาจส่งผลต่อระบบประสาทและกล้ามเนื้อ
วิธีดูแลและป้องกันภาวะไตเสื่อมและความไม่สมดุลของเกลือแร่
เพื่อป้องกันปัญหาเกี่ยวกับไตและเกลือแร่ในผู้ป่วยมะเร็ง ควรปฏิบัติตามคำแนะนำต่อไปนี้
- ดื่มน้ำให้เพียงพอ – เพื่อช่วยขับของเสียออกจากร่างกาย
- ลดปริมาณโซเดียมและอาหารแปรรูป – ป้องกันภาวะโซเดียมสูงที่อาจทำให้ความดันโลหิตสูงขึ้น
- ควบคุมปริมาณโปรตีนในอาหาร – เพื่อลดภาระการทำงานของไต
- ตรวจสุขภาพเป็นประจำ – เพื่อติดตามค่าการทำงานของไตและเกลือแร่ในเลือด
การตรวจเลือดเพื่อดูค่าการทำงานของไตและระดับเกลือแร่เป็นสิ่งสำคัญสำหรับผู้ป่วยมะเร็ง เพราะสามารถช่วยป้องกันภาวะแทรกซ้อนจากโรคและการรักษาได้ การดูแลสุขภาพไตและสมดุลเกลือแร่ด้วยโภชนาการที่เหมาะสมและการตรวจสุขภาพเป็นประจำจะช่วยให้ผู้ป่วยมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น
