ทำไมรักษามะเร็งตับจึงเน้นใช้ยามุ่งเป้า
ในปัจจุบันการรักษามะเร็งตับมีการพัฒนาก้าวหน้าอย่างมากและยามุ่งเป้า (Targeted Therapy) กลายเป็นทางเลือกหลักในหลายกรณี เนื่องจาก
1. ประสิทธิภาพของยามุ่งเป้าเหนือกว่าเคมีบำบัด
- ยามุ่งเป้า: โจมตีเซลล์มะเร็งโดยเฉพาะ ลดผลกระทบต่อเซลล์ปกติในร่างกาย
- เคมีบำบัด: แม้จะมีผลแต่ประสิทธิภาพในการจัดการมะเร็งตับโดยตรงยังน้อยเมื่อเทียบกับยามุ่งเป้า
2. ผลข้างเคียงที่ควบคุมได้ง่ายกว่า
- ยามุ่งเป้าทำให้เกิดผลข้างเคียงน้อยลงเมื่อเทียบกับเคมีบำบัด เช่น คลื่นไส้ อ่อนเพลีย หรือภาวะเม็ดเลือดต่ำ

3. การใช้เทคนิคเสริมเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ
ยามุ่งเป้าอาจใช้ร่วมกับวิธีอื่น เช่น
- TACE (Transarterial Chemoembolization): ฉีดยาเฉพาะจุดเข้าเส้นเลือดที่เลี้ยงก้อนมะเร็ง
- ภูมิคุ้มกันบำบัด (Immunotherapy): กระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันเพื่อกำจัดเซลล์มะเร็ง
4. การรักษาที่เหมาะกับระยะโรคและสุขภาพผู้ป่วย
- ในกรณีที่มะเร็งยังไม่ลุกลาม การใช้ยามุ่งเป้าร่วมกับการผ่าตัดหรือฉายรังสีอาจให้ผลดีที่สุด
- สำหรับผู้ป่วยที่มีอาการลุกลาม การใช้ยามุ่งเป้าช่วยควบคุมโรคและเพิ่มคุณภาพชีวิต
ยาเคมีบำบัดยังคงใช้ในบางกรณีที่เหมาะสม แต่ยามุ่งเป้ากลายเป็นแนวทางการรักษาหลักสำหรับมะเร็งตับในยุคปัจจุบัน เนื่องจากมีประสิทธิภาพสูงและลดผลข้างเคียงได้ดีกว่า