ศูนย์ชีวารักษ์

ภาพแสดงแพทย์กำลังอธิบายทางเลือกการรักษามะเร็งกระเพาะอาหารให้กับผู้ป่วยในโรงพยาบาล โดยมีภาพอวัยวะกระเพาะอาหารและวิธีการรักษาเช่น การผ่าตัดและเคมีบำบัด

รักษามะเร็งกระเพาะอาหาร ทางเลือกควรรู้

มะเร็งกระเพาะอาหารเป็นโรคที่ต้องการการรักษาอย่างเร่งด่วน โดยเฉพาะเมื่อพบในระยะแรก การเลือกวิธีการรักษาขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น ระยะของมะเร็ง ตำแหน่งที่เกิดโรค และสุขภาพโดยรวมของผู้ป่วย บทความนี้จะพาคุณไปสำรวจแนวทางการรักษามะเร็งกระเพาะอาหารที่แพทย์ใช้ในการดูแลผู้ป่วยในปัจจุบัน

อาการของมะเร็งกระเพาะอาหารที่ต้องเฝ้าระวัง

มะเร็งกระเพาะอาหารมักไม่แสดงอาการชัดเจนในระยะแรก แต่เมื่อเริ่มลุกลาม ผู้ป่วยอาจมีอาการต่อไปนี้:

  • ปวดท้องเรื้อรังหรือรู้สึกอึดอัด
  • ท้องอืดหรือรู้สึกอิ่มเร็วแม้จะกินอาหารเพียงเล็กน้อย
  • น้ำหนักลดลงโดยไม่ทราบสาเหตุ
  • อาเจียนหรืออาเจียนเป็นเลือด
  • อุจจาระสีดำหรือมีเลือดปน

หากคุณมีอาการเหล่านี้เป็นประจำ การพบแพทย์เพื่อตรวจคัดกรองมะเร็งกระเพาะอาหารเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยตรวจพบและรักษาโรคตั้งแต่เนิ่น ๆ

แนวทางการรักษามะเร็งกระเพาะอาหาร

1. การผ่าตัด (Surgery)

การผ่าตัดเป็นวิธีการรักษาหลักสำหรับมะเร็งกระเพาะอาหาร โดยเฉพาะในระยะแรก ก่อนที่มะเร็งจะลุกลามไปยังส่วนอื่นของร่างกาย มี 2 วิธีหลัก:

  • การผ่าตัดบางส่วนของกระเพาะอาหาร (Partial Gastrectomy): ตัดเฉพาะส่วนของกระเพาะอาหารที่มีมะเร็งออก พร้อมกับเนื้อเยื่อรอบ ๆ ที่อาจติดเชื้อ
  • การผ่าตัดกระเพาะอาหารทั้งหมด (Total Gastrectomy): สำหรับกรณีที่มะเร็งลุกลามไปทั่วกระเพาะอาหาร โดยแพทย์จะตัดกระเพาะอาหารทั้งหมดและต่อหลอดอาหารเข้ากับลำไส้เล็ก

2. การฉายรังสี (Radiation Therapy)

การฉายรังสีใช้คลื่นรังสีพลังงานสูงเพื่อทำลายเซลล์มะเร็ง เป็นวิธีที่มักใช้ร่วมกับการผ่าตัด หรือใช้เพื่อบรรเทาอาการในกรณีที่มะเร็งไม่สามารถผ่าตัดได้

3. เคมีบำบัด (Chemotherapy)

เคมีบำบัดเป็นการใช้ยาที่ช่วยทำลายเซลล์มะเร็งที่อาจแพร่กระจายไปยังส่วนอื่น ๆ ของร่างกาย ยาชนิดนี้สามารถใช้ก่อนหรือหลังการผ่าตัดเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของการรักษา หรือใช้ในกรณีที่มะเร็งเข้าสู่ระยะลุกลาม

4. การรักษาด้วยยามุ่งเป้า (Targeted Therapy)

การรักษาด้วยยามุ่งเป้าเป็นการใช้ยาที่ออกฤทธิ์โดยตรงต่อเซลล์มะเร็ง ยานี้จะจับเฉพาะเซลล์มะเร็งที่มีการกลายพันธุ์ของยีนเฉพาะ เช่น Trastuzumab (Herceptin) ที่ใช้สำหรับผู้ป่วยที่มีการกลายพันธุ์ของยีน HER2

5. ภูมิคุ้มกันบำบัด (Immunotherapy)

ภูมิคุ้มกันบำบัดเป็นวิธีใหม่ที่ใช้กระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันให้ทำงานโจมตีเซลล์มะเร็งโดยตรง วิธีนี้เหมาะสำหรับผู้ป่วยมะเร็งกระเพาะอาหารที่มีการกลายพันธุ์ของโปรตีน PD-L1 ยาที่นิยมใช้คือ Pembrolizumab (Keytruda)

6. การรักษาประคับประคอง (Palliative Care)

ในกรณีที่มะเร็งกระเพาะอาหารเข้าสู่ระยะลุกลามหรือไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้ การรักษาประคับประคองมุ่งเน้นการบรรเทาอาการ เช่น การปวดหรือการคลื่นไส้ เพื่อให้ผู้ป่วยมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น

ภาพแสดงแพทย์กำลังอธิบายทางเลือกการรักษามะเร็งกระเพาะอาหารให้กับผู้ป่วยในโรงพยาบาล โดยมีภาพอวัยวะกระเพาะอาหารและวิธีการรักษาเช่น การผ่าตัดและเคมีบำบัด

การฟื้นฟูหลังการรักษามะเร็งกระเพาะอาหาร

หลังการรักษา ผู้ป่วยจะต้องเข้ารับการฟื้นฟูเพื่อให้ระบบย่อยอาหารทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งอาจต้องปรับเปลี่ยนการรับประทานอาหารให้เหมาะสม รวมถึงการติดตามตรวจสุขภาพอย่างสม่ำเสมอเพื่อตรวจหาการกลับมาเป็นซ้ำของโรค

การรักษามะเร็งกระเพาะอาหารขึ้นอยู่กับระยะของโรคและสุขภาพของผู้ป่วย การรักษาในระยะแรกเพิ่มโอกาสในการฟื้นตัวได้ดี การผ่าตัด เคมีบำบัด และการฉายรังสีเป็นวิธีที่ใช้กันอย่างแพร่หลาย นอกจากนี้ การรักษาด้วยยามุ่งเป้าและภูมิคุ้มกันบำบัดยังเป็นทางเลือกที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการรักษา การตรวจสุขภาพและคัดกรองมะเร็งตั้งแต่เนิ่น ๆ จึงเป็นสิ่งสำคัญเพื่อป้องกันและรักษามะเร็งกระเพาะอาหารอย่างมีประสิทธิภาพ

สอบถามและปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เบอร์ติดต่อ 0638166058

สอบถามข้อมูลการรักษา

เพิ่มเพื่อน

แชร์บทความ
thTH
X