การรักษามะเร็งต่อมลูกหมากด้วยการฝังแร่
การรักษามะเร็งต่อมลูกหมากด้วยการฝังแร่ หรือที่เรียกกันว่า Brachytherapy เป็นหนึ่งในวิธีการรักษาที่มีประสิทธิภาพและนิยมใช้ในการรักษามะเร็งต่อมลูกหมากในปัจจุบัน การฝังแร่เป็นกระบวนการที่ใช้แหล่งกำเนิดรังสีขนาดเล็กฝังเข้าไปในเนื้อเยื่อของต่อมลูกหมาก เพื่อทำลายเซลล์มะเร็งโดยตรง
ขั้นตอนการฝังแร่
- การเตรียมตัวผู้ป่วย
- ผู้ป่วยจะต้องผ่านการตรวจร่างกายและการตรวจทางห้องปฏิบัติการเพื่อประเมินสภาพร่างกายและระยะของโรค
- การวางแผนการรักษาร่วมกับทีมแพทย์เพื่อกำหนดตำแหน่งและปริมาณของแร่ที่จะฝังเข้าไป
- การฝังแร่
- ใช้เข็มพิเศษในการนำแร่รังสีขนาดเล็กฝังเข้าไปในต่อมลูกหมาก โดยทำการฝังภายใต้การใช้เทคโนโลยีภาพถ่าย เช่น อัลตราซาวด์ หรือ MRI เพื่อให้สามารถกำหนดตำแหน่งที่แม่นยำ
- ขั้นตอนนี้ใช้เวลาประมาณ 1-2 ชั่วโมง และสามารถทำได้ในห้องผ่าตัดหรือห้องตรวจที่มีอุปกรณ์ครบครัน
- การดูแลหลังการฝังแร่
- ผู้ป่วยสามารถกลับบ้านได้ภายในวันเดียวกัน หรืออาจพักรักษาตัวในโรงพยาบาลเพียง 1-2 วัน
- การติดตามผลการรักษาอย่างใกล้ชิด โดยแพทย์จะทำการตรวจสอบผลกระทบและผลลัพธ์ของการรักษาเป็นระยะๆ
ประโยชน์ของการฝังแร่
- ประสิทธิภาพสูง: การฝังแร่สามารถทำลายเซลล์มะเร็งได้อย่างแม่นยำและมีประสิทธิภาพสูง
- ผลข้างเคียงน้อย: เนื่องจากรังสีถูกนำส่งตรงไปยังเนื้อเยื่อเป้าหมาย ทำให้ผลกระทบต่อเนื้อเยื่อรอบข้างน้อย
- ฟื้นตัวเร็ว: ผู้ป่วยสามารถกลับบ้านได้อย่างรวดเร็วและสามารถกลับมาทำกิจกรรมประจำวันได้ในเวลาไม่นาน
ข้อควรระวังและผลข้างเคียง
- อาการปวดบริเวณที่ฝังแร่: ผู้ป่วยอาจรู้สึกปวดหรือไม่สบายบริเวณที่ฝังแร่
- ปัสสาวะยากหรือปัสสาวะบ่อย: อาการเหล่านี้อาจเกิดขึ้นในช่วงแรกหลังการฝังแร่ แต่จะค่อยๆ หายไป
- การติดเชื้อ: แม้ว่าจะมีโอกาสน้อย แต่การติดเชื้อบริเวณที่ฝังแร่เป็นไปได้ ดังนั้นต้องมีการดูแลแผลให้สะอาดและป้องกันการติดเชื้อ
การรักษามะเร็งต่อมลูกหมากด้วยการฝังแร่เป็นวิธีการรักษาที่มีประสิทธิภาพและนิยมใช้ในการรักษามะเร็งต่อมลูกหมาก โดยมีขั้นตอนการฝังแร่ที่แม่นยำและผลข้างเคียงน้อย ผู้ป่วยสามารถฟื้นตัวได้เร็วและกลับมามีคุณภาพชีวิตที่ดี การติดตามผลการรักษาอย่างใกล้ชิดเป็นสิ่งสำคัญเพื่อให้มั่นใจได้ว่าการรักษามีผลลัพธ์ที่ดี
สอบถามและปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เบอร์ติดต่อ 0638166058