ศูนย์ชีวารักษ์

อินโฟกราฟิกที่แสดงให้เห็นการปลูกถ่ายไขกระดูกเป็นวิธีการป้องกันการเกิดซ้ำของมะเร็งต่อมน้ำเหลืองและมะเร็งเม็ดเลือดขาว โดยมีสเต็มเซลล์และการสร้างระบบภูมิคุ้มกันใหม่

ปลูกถ่ายไขกระดูก ลดโอกาสมะเร็งซ้ำ

การปลูกถ่ายไขกระดูก (Bone Marrow Transplantation) หรือ การปลูกถ่ายเซลล์ต้นกำเนิดเม็ดเลือด (Stem Cell Transplantation) เป็นหนึ่งในวิธีที่สำคัญในการรักษาและป้องกันการเกิดซ้ำของ มะเร็งต่อมน้ำเหลือง (Lymphoma) และ มะเร็งเลือดขาว (Leukemia) โดยเฉพาะในกรณีที่โรคมีความรุนแรงหรือมีความเสี่ยงที่จะกลับมาเป็นซ้ำ

หลักการของการปลูกถ่ายไขกระดูก

การปลูกถ่ายไขกระดูกช่วยฟื้นฟูระบบเม็ดเลือดและภูมิคุ้มกันของร่างกาย โดยกระบวนการนี้เกี่ยวข้องกับการแทนที่ไขกระดูกที่เสียหายหรือถูกทำลายด้วยไขกระดูกใหม่ที่แข็งแรง

ประเภทของการปลูกถ่ายไขกระดูก

  1. Autologous Transplant : ใช้เซลล์ต้นกำเนิดจากผู้ป่วยเอง โดยเก็บเซลล์ไว้ก่อนการรักษาเคมีบำบัดหรือรังสีรักษา
  2. Allogeneic Transplant : ใช้เซลล์ต้นกำเนิดจากผู้บริจาคที่มีเนื้อเยื่อเข้ากันได้ เช่น ญาติพี่น้อง หรือผู้บริจาคที่ไม่เกี่ยวข้อง

ขั้นตอนการปลูกถ่ายไขกระดูก

  1. การเตรียมร่างกาย : ผู้ป่วยจะต้องได้รับการรักษาด้วยเคมีบำบัดหรือรังสีรักษาในปริมาณสูงเพื่อทำลายเซลล์มะเร็งและระบบไขกระดูกเดิม
  2. การปลูกถ่ายเซลล์ต้นกำเนิด : เซลล์ต้นกำเนิดที่แข็งแรงจะถูกใส่เข้าสู่ร่างกายผ่านทางหลอดเลือด
  3. การฟื้นฟูไขกระดูก : เซลล์ต้นกำเนิดใหม่จะเข้าไปสร้างระบบเม็ดเลือดและภูมิคุ้มกันของร่างกาย

การปลูกถ่ายไขกระดูกช่วยป้องกันการเกิดซ้ำอย่างไร

  1. การฟื้นฟูระบบภูมิคุ้มกัน : การปลูกถ่ายช่วยสร้างระบบภูมิคุ้มกันใหม่ที่แข็งแรงเพื่อต่อสู้กับเซลล์มะเร็งที่อาจหลงเหลือ
  2. การกำจัดเซลล์มะเร็งหลงเหลือ (Minimal Residual Disease – MRD) : การรักษาด้วยเคมีบำบัดหรือรังสีร่วมกับการปลูกถ่ายช่วยลดความเสี่ยงของ MRD
  3. การเสริมภูมิคุ้มกันเฉพาะเจาะจง (Graft-versus-Leukemia Effect) : ในกรณีที่ใช้เซลล์จากผู้บริจาค ระบบภูมิคุ้มกันใหม่จะช่วยทำลายเซลล์มะเร็งที่เหลือในร่างกาย
อินโฟกราฟิกที่แสดงให้เห็นการปลูกถ่ายไขกระดูกเป็นวิธีการป้องกันการเกิดซ้ำของมะเร็งต่อมน้ำเหลืองและมะเร็งเม็ดเลือดขาว โดยมีสเต็มเซลล์และการสร้างระบบภูมิคุ้มกันใหม่

ข้อดีและความเสี่ยงของการปลูกถ่ายไขกระดูก

ข้อดี

  • ลดความเสี่ยงของการเกิดซ้ำของมะเร็ง
  • ฟื้นฟูระบบเม็ดเลือดและภูมิคุ้มกัน
  • เพิ่มโอกาสรอดชีวิตในระยะยาว

ความเสี่ยง

  • การติดเชื้อในช่วงฟื้นตัว
  • ภาวะปฏิกิริยาต่อต้านผู้รับ (Graft-versus-Host Disease) ในการปลูกถ่ายแบบ Allogeneic
  • ผลข้างเคียงจากการรักษาก่อนปลูกถ่าย

การดูแลหลังการปลูกถ่ายไขกระดูก

  1. ตรวจติดตามอาการ : พบแพทย์ตามนัดเพื่อประเมินการทำงานของไขกระดูกใหม่และตรวจหาอาการผิดปกติ
  2. ป้องกันการติดเชื้อ : หลีกเลี่ยงการอยู่ในที่แออัดหรือสัมผัสกับผู้ที่มีอาการเจ็บป่วย
  3. เสริมสร้างภูมิคุ้มกัน : รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ นอนหลับเพียงพอ และหลีกเลี่ยงความเครียด

การปลูกถ่ายไขกระดูกเป็นวิธีสำคัญในการป้องกันการเกิดซ้ำของมะเร็งต่อมน้ำเหลืองและมะเร็งเลือดขาว ช่วยฟื้นฟูระบบภูมิคุ้มกันและลดความเสี่ยงของเซลล์มะเร็งหลงเหลือ ผู้ป่วยควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อเลือกวิธีการรักษาที่เหมาะสมที่สุด

สอบถามและปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เบอร์ติดต่อ 0638166058

สอบถามข้อมูลการรักษา

เพิ่มเพื่อน

แชร์บทความ
thTH
X