มะเร็งกล้ามเนื้อหัวใจที่คุณควรรู้จัก
มะเร็งกล้ามเนื้อหัวใจ คืออะไร?
มะเร็งกล้ามเนื้อหัวใจ (Cardiac Rhabdomyosarcoma) เป็นมะเร็งชนิดร้ายแรงที่เกิดขึ้นในกล้ามเนื้อหัวใจ ซึ่งนับเป็นมะเร็งปฐมภูมิของหัวใจที่พบได้น้อยมาก โดยมีการศึกษาที่บ่งชี้ว่ามะเร็งชนิดนี้คิดเป็นน้อยกว่า 0.1% ของเนื้องอกหัวใจทั้งหมด (Burke et al., Human Pathology, 2016) แม้ว่าจะพบได้ในทุกวัย แต่มักเกิดขึ้นในเด็กและวัยรุ่นมากกว่าผู้ใหญ่ ซึ่งส่งผลให้การรักษาและการป้องกันเป็นเรื่องที่สำคัญมาก
ปัจจัยเสี่ยงของมะเร็งกล้ามเนื้อหัวใจ
สาเหตุที่แน่ชัดของมะเร็งชนิดนี้ยังไม่ทราบแน่ชัด แต่มีปัจจัยที่อาจเพิ่มความเสี่ยง ได้แก่:
- พันธุกรรม: บางครอบครัวมีการกลายพันธุ์ของยีนที่เพิ่มความเสี่ยงต่อมะเร็งชนิดนี้
- ความผิดปกติแต่กำเนิด: โรคที่เกี่ยวข้องกับพันธุกรรม เช่น กลุ่มอาการ Li-Fraumeni
- การได้รับรังสีในอดีต: การรักษาด้วยรังสีบริเวณทรวงอกอาจเพิ่มความเสี่ยงในอนาคต
- ภูมิคุ้มกันบกพร่อง: ผู้ที่มีระบบภูมิคุ้มกันอ่อนแออาจมีความเสี่ยงสูงขึ้น
- การสัมผัสสารพิษ: การสัมผัสสารเคมีบางชนิดสามารถเพิ่มโอกาสเกิดมะเร็ง
การศึกษาพบว่าประมาณ 10% ของผู้ป่วย Cardiac Rhabdomyosarcoma มีประวัติครอบครัวที่เป็นโรคมะเร็งที่เกี่ยวข้องกับความผิดปกติทางพันธุกรรม (Malkin et al., New England Journal of Medicine, 2011)
อาการและสัญญาณเตือน
Cardiac Rhabdomyosarcoma มีอาการที่คล้ายคลึงกับโรคหัวใจทั่วไป ซึ่งอาจทำให้การวินิจฉัยเป็นไปได้ยาก ดังนั้น ควรสังเกตสัญญาณเหล่านี้:
- เหนื่อยง่ายผิดปกติ แม้เพียงออกแรงเล็กน้อย
- หัวใจเต้นผิดจังหวะหรือใจสั่น
- หายใจลำบาก โดยเฉพาะเวลานอนราบ
- อาการบวมที่ขาหรือข้อเท้า
- เจ็บหน้าอกหรือรู้สึกแน่นหน้าอก
- เป็นลม หรือมีอาการหมดสติ
การศึกษาพบว่า 80% ของผู้ป่วยที่มีอาการเหนื่อยง่ายและหายใจลำบาก มักถูกวินิจฉัยว่าเป็น Cardiac Rhabdomyosarcoma (Journal of Thoracic Oncology, Castillo et al., 2018)

การวินิจฉัย
การวินิจฉัยโรคนี้ต้องใช้เครื่องมือหลายชนิด ได้แก่:
- การตรวจร่างกายอย่างละเอียด
- การตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ (ECG)
- การตรวจหัวใจด้วยคลื่นเสียงความถี่สูง (Echocardiogram)
- การสแกน CT หรือ MRI
- การตรวจชิ้นเนื้อเพื่อวินิจฉัย
การวินิจฉัยที่รวดเร็วและแม่นยำสามารถเพิ่มโอกาสการรักษาได้ถึง 50% ในผู้ป่วยระยะแรก (European Journal of Cancer, Ferrari et al., 2017)
การรักษามะเร็งกล้ามเนื้อหัวใจ
การรักษามักใช้วิธีผสมผสานเพื่อเพิ่มโอกาสการฟื้นตัว ประกอบด้วย:
- การผ่าตัด: เพื่อนำเนื้องอกออก (หากสามารถทำได้)
- เคมีบำบัด: เพื่อลดขนาดของเนื้องอก
- รังสีรักษา: เพื่อยับยั้งการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็ง
- การรักษาแบบมุ่งเป้า (Targeted Therapy): มุ่งเน้นการทำลายเฉพาะเซลล์มะเร็ง
- การปลูกถ่ายหัวใจ: ในกรณีที่รุนแรง
การศึกษาพบว่าการรักษาแบบผสมผสานสามารถเพิ่มอัตราการรอดชีวิต 3 ปี ได้ถึง 60% ในผู้ป่วยบางกลุ่ม (Raney et al., Pediatric Blood & Cancer, 2019)
การลดความเสี่ยงของมะเร็งกล้ามเนื้อหัวใจ
แม้จะไม่สามารถป้องกันโรคนี้ได้อย่างสมบูรณ์ แต่การดูแลสุขภาพหัวใจสามารถช่วยลดความเสี่ยงได้:
- รับประทานอาหารที่มีประโยชน์และออกกำลังกายสม่ำเสมอ
- หลีกเลี่ยงสารเคมีอันตราย
- ตรวจสุขภาพประจำปี โดยเฉพาะการตรวจหัวใจ
- สังเกตอาการผิดปกติและรีบพบแพทย์เมื่อจำเป็น
การดูแลสุขภาพหัวใจอย่างสม่ำเสมอสามารถลดความเสี่ยงของโรคหัวใจได้ถึง 30% (Circulation, American Heart Association, 2020)
Cardiac Rhabdomyosarcoma อาจเป็นโรคที่พบได้ยาก แต่ความเข้าใจเกี่ยวกับโรคนี้และการสังเกตสัญญาณเตือนเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยเพิ่มโอกาสในการรักษาให้สำเร็จ
ข้อมูลอ้างอิง:
- American Heart Association, Circulation, 2020
- Burke et al., Human Pathology, 2016
- Castillo et al., Journal of Thoracic Oncology, 2018
- Ferrari et al., European Journal of Cancer, 2017
- Raney et al., Pediatric Blood & Cancer, 2019