วิธีรักษามะเร็งตับ ยืดอายุอย่างมีคุณภาพ
มะเร็งตับคืออะไร?
มะเร็งตับ (Hepatocellular Carcinoma – HCC) เป็นโรคที่พบได้บ่อยในผู้ป่วยที่มีโรคตับเรื้อรัง เช่น ตับแข็งจากการติดเชื้อไวรัสตับอักเสบ B และ C หรือการดื่มแอลกอฮอล์เป็นระยะเวลานาน หากไม่ได้รับการรักษาที่เหมาะสม โรคนี้สามารถลุกลามและส่งผลต่อการทำงานของตับอย่างรุนแรง
วิธีการรักษามะเร็งตับ
การรักษามะเร็งตับขึ้นอยู่กับระยะของโรค สุขภาพของผู้ป่วย และสภาพของตับ โดยมีแนวทางสำคัญดังนี้
1. การผ่าตัด (Surgical Resection)
การผ่าตัดนำก้อนมะเร็งออก เหมาะสำหรับผู้ป่วยที่มีก้อนมะเร็งขนาดเล็กและไม่มีภาวะตับแข็ง
2. การปลูกถ่ายตับ (Liver Transplantation)
เหมาะสำหรับผู้ป่วยที่มีมะเร็งขนาดเล็กและโรคตับแข็งร่วมด้วย การปลูกถ่ายตับช่วยกำจัดมะเร็งและฟื้นฟูการทำงานของตับ
3. การทำลายก้อนมะเร็งเฉพาะที่ (Local Ablative Therapy)
- การจี้ด้วยคลื่นความถี่วิทยุ (RFA)
- การจี้ด้วยคลื่นไมโครเวฟ (MWA) วิธีนี้เหมาะสำหรับผู้ที่ไม่สามารถผ่าตัดได้ โดยก้อนมะเร็งต้องมีขนาดเล็ก
4. การให้ยาเคมีบำบัดเฉพาะที่ (Transarterial Chemoembolization: TACE)
การฉีดยาเคมีบำบัดร่วมกับสารอุดตันหลอดเลือดที่ไปเลี้ยงก้อนมะเร็ง เพื่อลดขนาดและยับยั้งการเจริญเติบโตของมะเร็ง
5. การรักษาด้วยยาต้านมะเร็งแบบมุ่งเป้า (Targeted Therapy)
ยา เช่น Sorafenib และ Lenvatinib ช่วยยับยั้งการเติบโตของเซลล์มะเร็งและหลอดเลือดที่ไปเลี้ยงก้อนมะเร็ง
6. การรักษาด้วยภูมิคุ้มกันบำบัด (Immunotherapy)
เช่น ยา Atezolizumab ร่วมกับ Bevacizumab ที่กระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันให้ทำลายเซลล์มะเร็งได้อย่างมีประสิทธิภาพ
การดูแลผู้ป่วยมะเร็งตับ
- การตรวจสุขภาพตับเป็นประจำ: เพื่อติดตามการกลับมาเป็นซ้ำของมะเร็ง
- การปรับโภชนาการ: ลดการบริโภคไขมันสูงและหลีกเลี่ยงแอลกอฮอล์
- การออกกำลังกายที่เหมาะสม: เพื่อเพิ่มภูมิคุ้มกันและเสริมสร้างความแข็งแรง
การรักษามะเร็งตับมีหลากหลายวิธีที่ต้องปรับให้เหมาะสมกับระยะของโรคและสุขภาพของผู้ป่วย การดูแลที่ถูกต้องสามารถช่วยยืดอายุและปรับปรุงคุณภาพชีวิตได้อย่างมีประสิทธิภาพ
