Atezo+Bev เพิ่มโอกาสรอดมะเร็งตับระยะลุกลาม
Atezolizumab (Atezo) ร่วมกับ Bevacizumab (Bev) เป็นแนวทางการรักษามะเร็งตับชนิด Hepatocellular Carcinoma (HCC) ระยะลุกลาม (Advanced Stage) ที่ได้รับการยอมรับอย่างแพร่หลาย เนื่องจากให้ผลการรักษาที่ดีกว่าการใช้ยาต้านมะเร็งแบบมุ่งเป้าเดี่ยว ๆ เช่น Sorafenib
การทำงานของ Atezolizumab และ Bevacizumab
1. Atezolizumab (Atezo)
- เป็นยาในกลุ่ม Immune Checkpoint Inhibitor
- ออกฤทธิ์โดยการยับยั้งโปรตีน PD-L1 (Programmed Death-Ligand 1) ซึ่งเป็นโปรตีนที่เซลล์มะเร็งใช้เพื่อหลบเลี่ยงการโจมตีของระบบภูมิคุ้มกัน
- เมื่อ PD-L1 ถูกยับยั้ง ระบบภูมิคุ้มกันจะสามารถจดจำและทำลายเซลล์มะเร็งได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
2. Bevacizumab (Bev)
- เป็นยาในกลุ่ม Anti-angiogenic Therapy
- ออกฤทธิ์โดยการยับยั้งโปรตีน VEGF (Vascular Endothelial Growth Factor) ซึ่งเป็นโปรตีนที่ช่วยกระตุ้นการสร้างหลอดเลือดใหม่เพื่อไปเลี้ยงก้อนมะเร็ง
- เมื่อ VEGF ถูกยับยั้ง การสร้างหลอดเลือดใหม่จะลดลง ทำให้ก้อนมะเร็งขาดสารอาหารและออกซิเจน ส่งผลให้การเติบโตของก้อนมะเร็งชะลอลง
กลไกการเสริมฤทธิ์ของ Atezolizumab และ Bevacizumab
การใช้ Atezolizumab ร่วมกับ Bevacizumab ช่วยเสริมฤทธิ์ซึ่งกันและกัน ดังนี้
- Bevacizumab ลดการสร้างหลอดเลือดใหม่ ทำให้ก้อนมะเร็งขาดออกซิเจนและสารอาหาร
- Atezolizumab กระตุ้นภูมิคุ้มกันให้ทำลายเซลล์มะเร็งได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น
- การลดหลอดเลือดใหม่โดย Bevacizumab ยังช่วยให้เซลล์ภูมิคุ้มกันสามารถเข้าสู่ก้อนมะเร็งได้ง่ายขึ้น ส่งผลให้ Atezolizumab ทำงานได้ดีขึ้น
ข้อบ่งชี้ในการใช้ Atezo/Bev ในการรักษามะเร็งตับ
ประสิทธิภาพของการรักษาด้วย Atezo/Bev
- ผู้ป่วยที่ได้รับ Atezolizumab + Bevacizumab มีอัตราการรอดชีวิตที่ดีกว่าผู้ที่ได้รับ Sorafenib (ยา Targeted Therapy แบบดั้งเดิม)
- Overall Survival (OS): เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ
- Progression-Free Survival (PFS): ระยะเวลาที่โรคไม่ลุกลามยาวนานขึ้น
- Quality of Life: คุณภาพชีวิตของผู้ป่วยดีขึ้นเมื่อเทียบกับการรักษาแบบเดิม
ผลข้างเคียงที่อาจพบได้
Atezolizumab
- อ่อนเพลีย
- ผื่นคันหรือผิวหนังอักเสบ
- ท้องเสีย
- ภูมิคุ้มกันทำลายเนื้อเยื่อตัวเอง (Immune-related adverse events) เช่น ไทรอยด์ผิดปกติ ปอดอักเสบ ตับอักเสบ
Bevacizumab
- ความดันโลหิตสูง
- เลือดออกในทางเดินอาหาร
- แผลหายช้า
- โปรตีนในปัสสาวะสูง (Proteinuria)
หมายเหตุ: แพทย์จะต้องประเมินความเสี่ยงและความเหมาะสมของการใช้ยาร่วมกันนี้อย่างรอบคอบ
ข้อจำกัดของการใช้ Atezo/Bev
- ผู้ป่วยที่มีภาวะเลือดออกในทางเดินอาหารหรือมีเส้นเลือดขอดในหลอดอาหาร (Esophageal Varices) ต้องได้รับการรักษาและควบคุมก่อน
- ไม่เหมาะสำหรับผู้ป่วยที่มีภาวะตับแข็งขั้นรุนแรง (Child-Pugh B หรือ C)
- ต้องมีการติดตามและประเมินผลการทำงานของตับและความดันโลหิตอย่างใกล้ชิด
การรักษามะเร็งตับระยะลุกลามด้วย Atezolizumab ร่วมกับ Bevacizumab เป็นแนวทางที่มีประสิทธิภาพสูง โดยช่วยกระตุ้นภูมิคุ้มกันและยับยั้งการสร้างหลอดเลือดที่เลี้ยงก้อนมะเร็ง ทำให้สามารถควบคุมโรคและยืดอายุของผู้ป่วยได้อย่างมีประสิทธิภาพมากกว่าการรักษาด้วยยามุ่งเป้าเพียงอย่างเดียว
