BI-RADS คืออะไร อ่านผลแมมโมแกรมให้เข้าใจ
การตรวจคัดกรองมะเร็งเต้านมด้วยเครื่องแมมโมแกรม (Mammogram) เป็นวิธีสำคัญที่ช่วยตรวจหาความผิดปกติของเต้านมตั้งแต่ระยะเริ่มต้น และเพื่อให้ผลการตรวจสื่อสารอย่างมีมาตรฐาน แพทย์จึงใช้ระบบ BI-RADS (Breast Imaging Reporting and Data System) ในการจัดระดับความผิดปกติของเต้านม
BI-RADS แบ่งผลการตรวจออกเป็น 7 ระดับ ตั้งแต่ 0 ถึง 6 โดยแต่ละค่ามีความหมายแตกต่างกัน และมีคำแนะนำการติดตามหรือการรักษาที่เหมาะสม
ความหมายของค่า BI-RADS แต่ละระดับ
BI-RADS 0 – ไม่สามารถสรุปผลได้
ต้องตรวจเพิ่มเติม เช่น อัลตราซาวนด์หรือแมมโมแกรมซ้ำ เพื่อให้ได้ผลชัดเจน
BI-RADS 1 – ปกติ
ไม่พบความผิดปกติใด ๆ ในเต้านม แนะนำให้ตรวจคัดกรองเป็นประจำทุกปี
BI-RADS 2 – พบความผิดปกติที่ไม่ใช่มะเร็ง
เช่น ซีสต์, ก้อนเนื้องอกธรรมดา หรือหินปูนที่ไม่อันตราย แนะนำให้ตรวจซ้ำปีละ 1 ครั้ง
BI-RADS 3 – พบบางสิ่งที่ดูเหมือนจะไม่ใช่มะเร็ง (probably benign)
มีโอกาสเป็นมะเร็งน้อยมาก (0–2%) แนะนำให้ติดตามตรวจซ้ำทุก 6 เดือนนาน 2 ปี เพื่อความมั่นใจ
BI-RADS 4 – สงสัยมะเร็งในระดับหนึ่ง
โอกาสเป็นมะเร็งอยู่ที่ 2–95% จำเป็นต้องเจาะชิ้นเนื้อจากจุดที่สงสัยมาตรวจเพิ่มเติม
BI-RADS 5 – น่าจะเป็นมะเร็งสูงมาก
มีโอกาสเป็นมะเร็งเกิน 95% จำเป็นต้องตรวจชิ้นเนื้อด่วน เพื่อวางแผนรักษา
BI-RADS 6 – ได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นมะเร็งแล้ว
ใช้สำหรับกรณีที่มีผลชิ้นเนื้อยืนยันแล้ว แต่ตรวจเพื่อดูขนาดหรือพัฒนาการของก้อน
การเจาะชิ้นเนื้อเต้านม ทำอย่างไร?
สำหรับผู้ที่มี BI-RADS 4 หรือ 5 แพทย์จะแนะนำให้เจาะชิ้นเนื้อทันที โดย
- ใช้เพียงยาชาเฉพาะที่
- ไม่ต้องดมยาสลบ
- แผลเล็กเท่ารูเข็ม
- เจ็บตัวน้อย และไม่ต้องนอนโรงพยาบาล
- ทราบผลภายใน 1 วัน
สรุป BI-RADS ช่วยวางแผนรักษาได้อย่างไร?
BI-RADS ไม่ใช่เพียงแค่ผลตรวจ แต่เป็นแนวทางสำคัญในการตัดสินใจรักษา หากเข้าใจระดับความเสี่ยงอย่างถูกต้อง ก็จะสามารถวางแผนตรวจติดตาม หรือรักษาได้อย่างทันท่วงที และลดโอกาสการเกิดมะเร็งเต้านมระยะลุกลาม
