ศูนย์ชีวารักษ์

แพทย์หญิงอธิบายการใช้ Ribociclib (Kisqali) ในการรักษามะเร็งเต้านมระยะลุกลาม HR+/HER2 ในห้องปฏิบัติการสมัยใหม่พร้อมภาพนวัตกรรมการรักษามะเร็ง

ribociclib succinate ทางเลือกมะเร็งเต้านมระยะแพร่กระจาย

ไรโบซิคลิบ ซักซิเนต (ribociclib succinate) เป็นยาที่ได้รับการยอมรับในระดับสากลสำหรับการรักษามะเร็งเต้านมชนิด HR+ / HER2- ระยะแพร่กระจาย โดยเฉพาะในผู้ป่วยที่ยังอยู่ในช่วงก่อนหมดประจำเดือนและวัยหมดประจำเดือน ยานี้ถือเป็นหนึ่งในทางเลือกที่ช่วยยืดอายุผู้ป่วย พร้อมกับลดความรุนแรงของโรคได้อย่างมีประสิทธิภาพ

กลไกการออกฤทธิ์ของยาไรโบซิคลิบ ซักซิเนต (ribociclib succinate)

ribociclib succinate ทำงานโดยยับยั้งโปรตีน CDK4/6 ซึ่งเป็นโปรตีนสำคัญที่มีบทบาทในการเจริญเติบโตและการแบ่งตัวของเซลล์มะเร็ง การยับยั้ง CDK4/6 จะช่วยลดการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็งอย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้ผู้ป่วยสามารถควบคุมโรคได้ดียิ่งขึ้น

การใช้ยาไรโบซิคลิบ ซักซิเนต (ribociclib succinate) ในการรักษามะเร็งเต้านมระยะแพร่กระจาย

ribociclib succinate ใช้ร่วมกับการรักษาด้วยฮอร์โมน (Endocrine Therapy) เช่น Letrozole, Anastrozole หรือ Fulvestrant โดยในผู้ป่วยก่อนหมดประจำเดือน จำเป็นต้องใช้ยาฉีด Goserelin เพื่อยับยั้งการสร้างฮอร์โมนจากรังไข่ การรักษาด้วย Ribociclib สามารถช่วย

  • ยืดระยะเวลาการอยู่รอดโดยไม่เกิดโรคลุกลาม (Progression-Free Survival หรือ PFS)
  • ลดความเสี่ยงของการลุกลามเมื่อเทียบกับการรักษาด้วยเคมีบำบัด
  • ลดอัตราการเกิดผลข้างเคียงที่รุนแรงเมื่อเทียบกับยาเคมีบำบัด

ข้อบ่งใช้ของยาไรโบซิคลิบ ซักซิเนต (ribociclib succinate)

ยาริโบซิคลิบ (Ribociclib) มีข้อบ่งใช้ (Indication) สำหรับการรักษามะเร็งเต้านมชนิดที่มีตัวรับฮอร์โมนบวก (HR+) และไม่มีตัวรับ HER2 (HER2-) ในผู้ป่วยที่เป็นมะเร็งเต้านมระยะลุกลามหรือระยะแพร่กระจาย โดยเฉพาะในกรณีดังต่อไปนี้

  1. ผู้ป่วยก่อนหมดประจำเดือนหรือวัยหมดประจำเดือน: ยานี้สามารถใช้ร่วมกับการรักษาด้วยฮอร์โมน เช่น เลโตรโซล, อนาโตรโซล หรือฟูลเวสทรานท์ โดยต้องมีการเพิ่มยาโกเซเรลินเพื่อยับยั้งฮอร์โมนในผู้ป่วยก่อนหมดประจำเดือน
  2. ผู้ป่วยที่ไม่เคยได้รับการรักษาแบบ systemic therapy สำหรับมะเร็งเต้านมระยะลุกลามมาก่อน: Ribociclib มักใช้เป็นการรักษาแบบบรรทัดแรกสำหรับมะเร็งเต้านม HR+/HER2- ที่ไม่เคยได้รับการรักษามาก่อน
  3. การใช้ยาร่วมกับการรักษาด้วยฮอร์โมน (Endocrine Therapy): Ribociclib มักใช้ร่วมกับยาฮอร์โมนเพื่อช่วยควบคุมการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็ง โดยการยับยั้งโปรตีน CDK4/6 ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญในการแบ่งตัวของเซลล์มะเร็ง
  4. ผู้ป่วยที่มีลักษณะของโรคที่รุนแรง (Aggressive Disease): ใช้ในผู้ป่วยที่มีอาการของโรคมะเร็งที่แพร่กระจายไปยังอวัยวะภายใน หรือมีการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็งอย่างรวดเร็ว

ยา Ribociclib ช่วยยืดระยะเวลาการอยู่รอดโดยไม่เกิดโรคลุกลามเมื่อเทียบกับการใช้ยาเคมีบำบัดและมีการใช้กันอย่างแพร่หลายในกลุ่มผู้ป่วยที่มีการตอบสนองต่อการรักษาด้วยฮอร์โมน

แพทย์หญิงอธิบายการใช้ Ribociclib (Kisqali) ในการรักษามะเร็งเต้านมระยะลุกลาม HR+/HER2 ในห้องปฏิบัติการสมัยใหม่พร้อมภาพนวัตกรรมการรักษามะเร็ง

ผลการศึกษาไรโบซิคลิบ ซักซิเนต (ribociclib succinate) ดีกว่าการรักษาแบบเคมีบำบัด

  • ผู้ป่วยที่ใช้ Ribociclib + Endocrine Therapy มีค่า PFS เฉลี่ย 24 เดือน เทียบกับ 12.3 เดือนในกลุ่มเคมีบำบัด
  • อัตราการลดความเสี่ยงของโรคลุกลาม (Hazard Ratio, HR) เท่ากับ 0.54
  • ค่าความน่าจะเป็นทางสถิติ (P-value) อยู่ที่ 0.0007 ซึ่งยืนยันถึงความน่าเชื่อถือของผลการศึกษา

ผลข้างเคียงที่ควรรู้

ผู้ป่วยที่ใช้ไรโบซิคลิบ ซักซิเนต (ribociclib succinate) อาจพบผลข้างเคียง เช่น

  • อ่อนเพลีย
  • คลื่นไส้ อาเจียน
  • การทำงานของตับผิดปกติ
  • การเปลี่ยนแปลงของระดับเม็ดเลือด

ดังนั้น การติดตามอาการและปรึกษาแพทย์อย่างสม่ำเสมอจึงเป็นสิ่งสำคัญ

ไรโบซิคลิบ ซักซิเนต (ribociclib succinate) ถือเป็นนวัตกรรมสำคัญในการรักษามะเร็งเต้านมระยะแพร่กระจายชนิด HR+/HER2- โดยเฉพาะในผู้ป่วยที่ตอบสนองต่อการรักษาด้วยฮอร์โมน ยานี้ช่วยยืดอายุผู้ป่วย ลดความรุนแรงของโรค และยังสามารถใช้แทนการรักษาด้วยเคมีบำบัดได้ในบางกรณี หากคุณหรือคนใกล้ตัวกำลังเผชิญกับมะเร็งเต้านม การปรึกษาแพทย์เพื่อพิจารณาทางเลือกในการรักษาที่เหมาะสมที่สุดเป็นสิ่งสำคัญ

สอบถามและปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เบอร์ติดต่อ 0638166058

สอบถามข้อมูลการรักษา

เพิ่มเพื่อน

แชร์บทความ
thTH
X