การรักษามะเร็งตับด้วย TACE (Transarterial chemoembolization)
มะเร็งตับเป็นมะเร็งที่พบมากเป็นอันดับที่ 6 ของโลก การผ่าตัดตับถือเป็นการรักษาเพื่อการหายสำหรับมะเร็งตับ อย่างไรก็ตาม มีผู้ป่วยมะเร็งตับเพียงประมาณ 20% เท่านั้นที่สามารถเข้ารับการผ่าตัด การฉีดเคมีบำบัดเข้าไปในหลอดเลือดที่ไปยังก้อนมะเร็งหรือวิธีที่เรียกว่า TACE (Transarterial chemoembolization) เพื่อลดเลือดไปหล่อเลี้ยงยังก้อนมะเร็งและฆ่าก้อนมะเร็ง เป็นวิธีรักษาที่พบบ่อยที่สุดสำหรับมะเร็งตับ โดยแพทย์อาจรักษามะเร็งตับด้วย TACE เพียงอย่างเดียว หรือใช้ร่วมกับการผ่าตัด เคมีบำบัด หรือการฉายรังสี
TACE คืออะไร?
การให้เคมีบำบัดผ่านหลอดเลือด หรือ TACE (Transarterial chemoembolization) เป็นการผสมผสานระหว่างการให้เคมีบำบัดเฉพาะที่กับกระบวนการที่เรียกว่า embolization เพื่อรักษามะเร็ง โดยส่วนใหญ่มักเป็นก้อนมะเร็งที่ตับ เป็นวิธีรักษาที่ไม่ต้องผ่าตัด
วิธีการรักษาด้วย TACE คือ แพทย์จะทำการฉีดยาเคมีบำบัด เข้าไปยังก้อนมะเร็งโดยตรง ผ่านทางหลอดเลือดที่เข้าไปเลี้ยงก้อนมะเร็ง จากนั้นจะใส่วัสดุสังเคราะห์ที่เรียกว่าสารอุดหลอดเลือดเข้าไปในหลอดเลือดที่เส้นเดิม ทำให้เคมีบำบัดที่ฉีดเข้าไปก่อนหน้านั้นถูกกักอยู่ในก้อนมะเร็งและยังขัดขวางไม่ให้เลือดไหลเข้าไปหล่อเลี้ยงก้อนมะเร็งอีกด้วย
มะเร็งที่รักษาโดย TACE ได้แก่:
- มะเร็งตับหรือมะเร็งเซลล์ตับ (มะเร็งตับระยะแรก)
- มะเร็งท่อน้ำดี (มะเร็งปฐมภูมิของท่อน้ำดีในตับ)
- มะเร็งที่มีการแพร่กระจายไปยังตับจาก:
- มะเร็งลำไส้ใหญ่
- โรคมะเร็งเต้านม
- เนื้องอกของ carcinoid และเนื้องอกในระบบประสาทต่อมไร้ท่ออื่น ๆ
- มะเร็งตับอ่อน
- Ocular melanoma
- มะเร็งซาร์โคมา
ขั้นตอนทำงานอย่างไร?
TACE ทำลายมะเร็งได้ 2 วิธี
ประการแรก ให้เคมีบำบัดที่มีความเข้มข้นสูงมาก เข้าสู่เก้อนมะเร็งโดยตรง โดยไม่ทำให้ร่างกายได้รับผลของยาเหล่านั้น ประการที่สอง ขั้นตอนนี้จะตัดเลือดที่ไปเลี้ยงเนื้องอก โดยกักยาต้านมะเร็งไว้ที่บริเวณนั้น และทำให้เก้อนมะเร็งขาดออกซิเจนและสารอาหารที่จำเป็นในการเจริญเติบโต
ตับมีหลอดเลือดไปเลี้ยงสองชนิด ได้แก่ หลอดเลือดแดงตับ (Hepatic artery) และหลอดเลือดดำพอร์ทัล (Portal vein) ในภาวะปกติตับได้รับเลือดประมาณร้อยละ 75 ผ่านทางหลอดเลือดดำพอร์ทัล และร้อยละ 25 ผ่านทางหลอดเลือดแดงตับ แต่เมื่อเนื้องอกเติบโตในตับ จะได้รับเลือดไปเลี้ยงจากหลอดเลือดแดงตับเกือบทั้งหมด
ยาเคมีบำบัดที่ฉีดเข้าไปในหลอดเลือดแดงตับจะไปถึงก้อนมะเร็งโดยตรง ซึ่งช่วยรักษาเนื้อเยื่อตับที่มีสุขภาพดีส่วนใหญ่ จากนั้น เมื่อหลอดเลือดแดงตับถูกอุกด้วยสารอุดหลอดเลือด เลือดจะไม่ถูกส่งไปยังก้อนมะเร็งอีกต่อไป ในขณะที่เนื้อเยื่อตับปกติยังคงได้รับเลือดจากหลอดเลือดดำพอร์ทัล นอกจากนี้การอุดหลอดเลือดแดงตัลช่วยให้ยาเคมีบำบัดที่มีความเข้มข้นสูงสามารถทำลายก้อนมะเร็งได้เป็นระยะเวลานานขึ้น
โดยปกติ TACE จะแล้วเสร็จภายใน 90 นาที
การทำ TACE มีประโยชน์ต่อคนไข้มะเร็งตับอย่างไร
- ประมาณสองในสามของกรณีที่ได้รับการรักษา TACE สามารถหยุดยั้งก้อนมะเร็งในตับไม่ให้เติบโตหรือทำให้ก้อนมะเร็งหดตัวได้ ผลนี้จะคงอยู่โดยเฉลี่ย 10 ถึง 14 เดือน ขึ้นอยู่กับประเภทของก้อนมะเร็ง และมักจะสามารถทำซ้ำได้หากมะเร็งเริ่มกลับมาเติบโตอีกครั้ง
- การรักษามะเร็งประเภทอื่นๆ (การผ่าตัด เคมีบำบัด การฉายรังสี) อาจใช้ร่วมกับ TACE เพื่อควบคุมก้อนมะเร็งได้ ขึ้นอยู่กับขนาดและตำแหน่งของก้อนมะเร็ง
- TACE สามารถช่วยป้องกันการเติบโตของก้อนมะเร็ง รักษาการทำงานปกติของตับ ทำให้ผู้ป่วยมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น
TACE มีข้อจำกัดอะไรบ้าง?
ไม่แนะนำให้ใช้ TACE ในกรณีที่ตับหรือไตทำงานผิดปกติอย่างรุนแรงการแข็งตัวของเลือดผิดปกติ
สอบถามและปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เบอร์ติดต่อ 0638166058