รักษามะเร็งแพร่กระจายใช้ Targeted ร่วมได้?
การรักษาแบบมุ่งเป้า (Targeted Therapy) ไม่ได้ใช้แยกเดี่ยวเสมอไป แต่มักใช้ร่วมกับการรักษารูปแบบอื่น เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการควบคุมโรค ลดการลุกลาม และยืดอายุผู้ป่วยให้ยาวนานขึ้น เช่น
1. ใช้ร่วมกับเคมีบำบัด (Chemotherapy)
- ใช้ในผู้ป่วยบางรายที่ตอบสนองต่อเคมีบำบัดร่วมกับ targeted therapy
- อาจช่วยลดขนาดก้อนมะเร็ง หรือทำให้ยามุ่งเป้ามีประสิทธิภาพมากขึ้น
2. ใช้ร่วมกับยาภูมิคุ้มกันบำบัด (Immunotherapy)
- ผู้ป่วยบางรายโดยเฉพาะผู้ที่เป็นมะเร็งปอดหรือไต อาจได้รับยามุ่งเป้าร่วมกับภูมิคุ้มกันบำบัด
- การรักษาแบบผสมผสานนี้ช่วยกระตุ้นภูมิคุ้มกันให้ทำงานได้ดีขึ้น
3. ใช้ร่วมกับการฉายรังสี (Radiation Therapy)
- หากมีจุดที่มะเร็งกระจายไป เช่น สมอง หรือกระดูก แพทย์อาจพิจารณาฉายรังสีเฉพาะจุดร่วมกับ targeted therapy
4. ใช้ร่วมกับการผ่าตัดในบางกรณี
แม้จะเป็นระยะแพร่กระจาย แต่หากมีก้อนมะเร็งหลักที่ยังสามารถผ่าตัดได้ การใช้ targeted therapy ควบคู่หลังผ่าตัดอาจช่วยลดความเสี่ยงการกลับมาเป็นซ้ำ
การรักษามะเร็งระยะแพร่กระจาย ต้องอาศัยการวางแผนแบบเฉพาะบุคคล
การใช้ targeted therapy ร่วมกับวิธีอื่นจะพิจารณาจาก
- ชนิดของมะเร็ง
- ตำแหน่งที่มะเร็งแพร่กระจาย
- ยีนหรือโปรตีนจำเพาะของเซลล์มะเร็ง (เช่น HER2, EGFR, ALK ฯลฯ)
- สุขภาพโดยรวมของผู้ป่วย
จึงควรปรึกษาแพทย์เฉพาะทางด้านมะเร็ง เพื่อประเมินและออกแบบแผนการรักษาที่เหมาะสมที่สุด
