รู้จัก MSI-H ตัวแปรสำคัญก่อนรักษามะเร็ง
Microsatellite Instability (MSI) เป็นความผิดปกติทางพันธุกรรมที่เกิดจากความบกพร่องของยีนที่ทำหน้าที่ซ่อมแซมความผิดพลาดของ DNA (Mismatch Repair Genes – MMR) ได้แก่ MLH1, MSH2, MSH6, และ PMS2 ความผิดปกตินี้ทำให้เกิดการสะสมของความผิดพลาดในลำดับ DNA ส่งผลให้เซลล์แบ่งตัวผิดปกติและเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดมะเร็งหลายชนิด
ประเภทของ MSI
MSI-High (MSI-H):
- มีความผิดปกติสูงในไมโครแซทเทลไลต์
- มักพบในมะเร็งลำไส้ใหญ่และลำไส้ตรง, มะเร็งเยื่อบุโพรงมดลูก, และมะเร็งกระเพาะอาหาร
- มักเกี่ยวข้องกับโรคทางพันธุกรรม เช่น Lynch Syndrome
- ตอบสนองดีต่อการรักษาด้วยภูมิคุ้มกันบำบัด (Immunotherapy)
MSI-Low (MSI-L):
- มีความผิดปกติของไมโครแซทเทลไลต์เพียงเล็กน้อย
- มีความเกี่ยวข้องกับความผิดปกติของยีน MMR น้อยกว่า MSI-H
Microsatellite Stable (MSS):
- ไม่มีความผิดปกติของไมโครแซทเทลไลต์
- มักพบในมะเร็งทั่วไปที่ไม่เกี่ยวข้องกับการกลายพันธุ์ของยีน MMR
มะเร็งที่เกี่ยวข้องกับ Microsatellite Instability (MSI)
- มะเร็งลำไส้ใหญ่และลำไส้ตรง (Colorectal Cancer)
- MSI-H พบได้บ่อยในผู้ป่วยมะเร็งลำไส้ใหญ่และลำไส้ตรง โดยเฉพาะในกลุ่มที่มีโรคทางพันธุกรรมอย่าง Lynch Syndrome
- เป็นชนิดของมะเร็งที่ตอบสนองดีต่อการรักษาด้วยภูมิคุ้มกันบำบัด (Immunotherapy)
- มะเร็งเยื่อบุโพรงมดลูก (Endometrial Cancer)
- เป็นมะเร็งที่พบความผิดปกติของ MSI ได้สูง โดยเฉพาะในผู้หญิงที่มี Lynch Syndrome
- MSI-H ในมะเร็งชนิดนี้ช่วยในการวางแผนการรักษาและทำนายผลการรักษา
- มะเร็งกระเพาะอาหาร (Gastric Cancer)
- พบ MSI-H ในมะเร็งกระเพาะอาหารบางราย ซึ่งมีแนวโน้มที่จะตอบสนองต่อภูมิคุ้มกันบำบัดได้ดี
- มะเร็งรังไข่ (Ovarian Cancer)
- MSI-H พบได้ในมะเร็งรังไข่ชนิดเยื่อบุโพรงมดลูก (Endometrioid Type) โดยเฉพาะในกลุ่มผู้ป่วยที่มี Lynch Syndrome
- มะเร็งทางเดินปัสสาวะ (Urothelial Cancer)
- เช่น มะเร็งกระเพาะปัสสาวะ และ มะเร็งไต บางชนิด อาจมีความผิดปกติของ MSI และตอบสนองต่อการรักษาด้วยภูมิคุ้มกันบำบัด
- มะเร็งตับอ่อน (Pancreatic Cancer)
- แม้พบได้น้อย แต่ MSI-H ส่งผลต่อการเลือกวิธีการรักษา
- มะเร็งทางเดินน้ำดี (Cholangiocarcinoma)
- มีการศึกษาพบว่า MSI-H อาจเกี่ยวข้องกับการพัฒนาของมะเร็งชนิดนี้
- มะเร็งสมอง (Glioblastoma Multiforme – GBM)
- พบ MSI-H ในผู้ป่วยบางราย อาจช่วยปรับแนวทางการรักษาให้มีประสิทธิภาพ
บทบาทของ MSI ในการรักษามะเร็ง
- การตรวจคัดกรองและวินิจฉัยโรค:
- การตรวจ MSI ช่วยระบุความเสี่ยงของการเป็นมะเร็งโดยเฉพาะในผู้ที่มีประวัติครอบครัวเป็นมะเร็ง (Lynch Syndrome)
- ช่วยประเมินแนวโน้มการแพร่กระจายและความรุนแรงของโรค
- การเลือกแนวทางการรักษา:
- มะเร็ง MSI-H มักตอบสนองต่อภูมิคุ้มกันบำบัด (Immunotherapy) ได้ดีกว่าการรักษาแบบอื่น
- Immune Checkpoint Inhibitors เช่น Pembrolizumab (Keytruda) และ Nivolumab (Opdivo) ช่วยกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันให้ทำลายเซลล์มะเร็ง
- การทำนายผลการรักษา (Prognosis):
- ผู้ป่วยมะเร็ง MSI-H มักมีพยากรณ์โรคที่ดีกว่าผู้ป่วยที่มี MSS เพราะมีโอกาสตอบสนองต่อการรักษาด้วยภูมิคุ้มกันบำบัดสูงกว่า
Microsatellite Instability (MSI) เป็นปัจจัยเสี่ยงสำคัญที่ทำให้เกิดมะเร็งหลายชนิด โดยเฉพาะ มะเร็งลำไส้ใหญ่และลำไส้ตรง, มะเร็งเยื่อบุโพรงมดลูก, และ มะเร็งกระเพาะอาหาร การตรวจหา MSI-H มีความสำคัญต่อการวางแผนการรักษาและช่วยเพิ่มโอกาสในการเลือกใช้ภูมิคุ้มกันบำบัด (Immunotherapy) ที่เหมาะสมกับผู้ป่วย
